ปัจจุบันบริษัทด้านขนส่งนั้นมีมากมายให้เราได้รู้จักกัน มีมากมายหลายบริษัทเกิดขึ้นเป็นเด็กดอกเห็ดเลยทีเดียว แต่วันนี้เราจะมาขอนำเสนอการขนส่งรุ่นเก่าอย่างไปรษณีย์ไทย และ บริษัท lalamove กันดูสักหน่อยว่า สองอย่างนี้วัดกันหมัดต่อหมัดแล้วโอนเอียงไปทางไหนดีเดี๋ยวเรามาลองดูกันเลยครับ
ไปรษณีย์ไทย
ก่อนอื่นเริ่มที่รุ่นใหญ่เจ้าเก่าอย่างไปรษณีย์ไทยกันก่อนนะคนครับ เพราะไปรษณีย์ไทยนั้นมีประวัติมายาวนานมากโดยเกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 จนปัจจุบันก็ยังมีบริการอยู่ ซึ่งปัจจุบันไปรษณีย์ไทยนั้นมีบริการต่าง ๆ มากมายอาทิเช่น รับชำระสินค้าบริการต่าง ๆ การจำหน่ายแสตมป์ และการจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการห่อหุ้มสินค้าด้วยเช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูข้อดีของไปรษณีย์ไทยกันนะครับ
ข้อดีไปรษณีย์ไทย
- มีสาขาทั่วประเทศ : ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีที่ทำการทั้งหมด 1,267 สาขาทั่วประเทศ ยังไม่นับรวมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเช่นตัวแทนจำหน่ายตราไปรษณียากร และมีพนักงานทั้งหมดกว่า 25,029 (ข้อมูลจากปี 59)
- ราคาค่าส่งที่ถูก : โดยมีการส่งเริ่มต้นที่เพียง 14 บาท
- ตรวจสูบทางอินเตอร์เน็ตได้ : การบริการส่งแบบ EMS เมื่อส่งกับไปรษณีย์ไทยสามารถตรวจสอบทาง EMS ได้
บริษัท lalamove
Lalamove ก่อตั้งเมื่อปี 2556 ในฮ่องกงโดยใช้ชื่อว่า EasyVan ที่จะให้บริการโลจิสติกส์ในเอเซียแบบ “on demand delivery” โดยปัจจุบันให้บริการอยู่ที่ 15 เมืองได้แก่ ฮ่องกง, สิงคโปร์, กรุงเทพฯ, กวางเจา, เสิ่งเจิ้น, ไทเป, ตงก่วน, โฝ่ชาน, เซี่ยงไฮ้, ฉงชิ่ง, จงซาน, ฮุ่ยโจว, หนานจิง, หางโจว และเฉิงตู เป็นบริษัทเอกชนที่เปิดการขนส่งแค่หัวเมืองเท่านั้น
ข้อดีของ บริษัท lalamove
- มีการบริการที่หลากหลาย
- สะดวกง่าย
- จัดส่งที่รวดเร็ว
สรุป บริษัท lalamove Vs ไปรษณีย์ไทย
หากถามถึงว่าข้อดีข้อเสียของทั้งสองแบบนั้นก็ต่างกันแต่ บริษัท lalamove นั้นยังเป็นรองในเรื่องของความหลากหลายในการส่งเนื่องจากเปิดให้บริการเพียงแค่กรุงเทพมหานครเท่านั้นทำให้การจัดส่งนั้นแทบจะไม่ต่างจากการบริการของเจ้าอื่น ๆ เลยก็ว่าได้